สองจุดสองสอง

 

ห้องเรียนสองสองของทวีธารุ่นปี เก้าเจ็ด ไม่น่าจะใช่ที่ที่ผู้ใฝ่เรียนทั้งหลายมาอยู่ คำพูดนี้อาจมีหลายคนที่ไม่รู้จักพวกเราดีพอพาลคิดไปว่า เอ…อะไรมันจะเฮี้ยวกันขนาดนั้นเลยหรือ???

 

จริงแท้

 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าห้องเราจะมีเฉพาะเด็กเล่นสนุกที่ไม่เคยพกความรู้อยู่อย่างเดียว เพราะตามที่ได้เคยเล่าให้อ่านไปบ้างแล้ว ห้องสองสองของพวกถั่วงอกยังมีมนุษย์ใฝ่ดี ตั้งใจน่าดูที่จะมาหาความรู้และขอพื้นที่ในการอยู่เรียนหนังสือปะปนกับพวกเราอย่างพอเพียงได้

 

ไชยวัฒน์ ชาตรี และก็ ชาญชัย นั่นคือชนกลุ่มน้อยที่พอจะเอาเรียน ที่ได้ถูกกล่าวถึงไปแล้ว

 

ต่อจากเขาเหล่านั้น คนที่ผมจะนึกถึงในเวลานี้ก็เป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับชนกลุ่มน้อยพวกนั้น และยังสามารถยืนระยะเรียนอยู่ภายใต้ความโกลาหลร่วมกับแก็งค์ถั่วงอกจนจบ ม.ปลายได้อีก

 

เด็กชายตัวขาว หูกางนิดๆ เรียบร้อย แลดูดีมีชาติตระกูล ลักษณะเอาเรียน เพราะเพียงวันแรกที่เห็น เขาก็อยู่ในสภาพพร้อมขวนขวายเข้าห้องเรียนเพื่อขีดเขียนหาความรู้ กลางวันไม่ต้องเดาก็รู้อยู่ห้องสมุด เลิกเรียนเร่งสุดๆทำการบ้าน

 

เดชา ถูกพวกเราเรียกสั้นๆว่า ไอ้เด ไอ้เดก็เหมือนเพื่อนรักเรียนทั่วๆไปที่เราพอรู้สึกได้ถึงการเป็นคนดี ใฝ่ดี เขาเป็นดั่งฝั่งตรงข้ามกับพวกมหาภัยวายร้ายถั่วงอก กิจกรรมใดที่พวกถั่วงอกบ้าบอกระทำกันเพื่อแสดงความกวนตีนอวดชาวโลก หากแต่เป็นเดชา เขาจะหยุดคิดตรึกตรองนิดนึงตามวิสัยของคนรักดี ก่อนจะบอกกับตัวเองว่านั่นมันเป็นกิจกรรมของพวกเหลวไหลทำกันเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงแน่แหละครับ….ที่.มนุษย์เรียนหนังสืออย่างเดชา มักไม่ยุ่งและไม่เกี่ยวข้องใดๆกับความบ้าบอสุดลิ่มของถั่วงอกเลย ดังนั้นแล้ว ถ้าจะหาประวัติความกวนตีนของไอ้เด มันยิ่งไม่น่าจะมีได้ในห้องสองสอง

 

แต่ก็ใช่ว่า เดชาจะอยู่แบบรังเกียจมนุษย์ไม่รักเรียนแก็งค์ถั่วงอก เขากลับปรับสภาพและเข้าได้ดีกับพวกเราชนหมู่มากของห้อง เดชามองพวกเราเล่นสนุกพร้อมกับมีสมาธิในการเรียนหนังสือต่อได้เมื่อเขาหันหน้ากลับเข้าสู่กระดานดำ ไม่มีความต่างหรือความลำบากใจใดๆให้เดชาในการอาศัยอยู่ห้องสองสอง ยิ่งเวลาในรั้วทอ ภอ ผ่านไปมากขนาดไหน เดชายิ่งทำให้พวกเราได้เห็นว่า สามารถพึ่งพาได้ในการสอบถามหาความรู้เชิงวิชาการ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลทำรายงานหรือ ฤดูกาลแห่งการสอบ……….เราจะระลึกถึงเดชาเป็นพิเศษ

 

ครั้งหนึ่งอาจารย์ประจำวิชาภาษาไทยให้พวกเราแบ่งกลุ่มทำรายงาน โดยอาจารย์ต้องการแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งกำหนดให้แต่ละกลุ่มต้องมีหัวหน้า โดยอาจารย์ใช้วิธีการสุ่มเลือกหัวหน้าขึ้นมา ว่าแล้วอาจารย์ภาษาไทยก็ชี้นิ้วไปที่เดชาซึ่งนั่งอยู่ที่ส่วนหน้าของห้องเป็นคนแรก และเลื่อนนิ้วค่อนไปทางหลังห้องเพื่อเลือกอีกหนึ่งคนโดยดันไปเจาะจงเอาตรงตำแหน่งของนักเรียนสาธิต

 

ใครต้องการทำรายงานอยู่กลุ่มเดียวกับเพื่อนเราคนนี้ บ้าง ให้ยกมือ อาจารย์ภาษาไทยเอื้อนเอ่ย พร้อมผายมือมาที่ตัวเดชา

 

ห้องเรียนสองสองของเราในเวลานั้นมีเหลือด้วยกันประมาณ  28 คน

 

สิ้นเสียงของอาจารย์ภาษาไทยจบลง มีมือลอยเหนืออยู่ในอากาศในห้องเรียนสองสอง ณ วันนั้น จำนวนรวมนับได้ 26 มือ

 

นั่นเป็นหลักฐานยืนยันแล้วว่าระหว่างเดชากับสาธิต นักเรียนถั่วงอกที่ต้องการมีคะแนนเก็บในการทำรายงานเลือกที่จะอยู่ข้างใคร

 

แม้ว่าอาจารย์ภาษาไทยท่านนั้นจะให้พวกเราตัดสินใจยกมือใหม่สักกี่ครั้ง เดชาก็จะได้กลุ่มรายงาน 26 คน ในขณะที่ สาธิต ไม่เคยได้มีการยกมือหาเพื่อนร่วมกลุ่มเลย

 

สุดท้ายเลยต้องเป็นไปตามเลขที่ ใครอยู่ครึ่งห้องบนอยู่กับเดชา

 

เย้…….ผมร้องออกมาพร้อมกับนักเรียนครึ่งห้องบน ด้วยเพราะ สบายแล้วพวกเรา ให้เดชาทำ มีคะแนนเก็บดีๆ แน่ๆ ชัวร์ๆ

 

อาจารย์ภาษาไทยช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าครึ่งห้องล่างที่อยู่กับสาธิตนั้นนะ…………. หัวกะทิล้วนๆ

 

จึงไม่แปลกเลยที่เมื่อสิ้นสุดภาคการเรียนเทอมหนึ่งของมัธยมศึกษาปีที่ห้า เดชาจะจบตำแหน่งการเรียนด้วยอันดับ 1 ของห้องถั่วงอก

 

และบังเอิญเหลือเกินที่เทอมสองของ ม. 5 ในสัปดาห์แรกนั้น ทางโรงเรียนทวีธาภิเศกมีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ได้ที่หนึ่งของทุกชั้นเรียนเป็นจำนวนเงินคนละ 300 บาท

 

วันนั้นเป็นเพียงไม่กี่วันหรอกที่ชาวถั่วงอกจะรีบมาเข้าแถวกันอย่างพร้อมเพรียงทันเวลาเคารพธงชาติ เจตนาเพียงเพราะอยากมาชื่นชมแสดงความยินดีกับเดชาที่จะได้ขึ้นรับทุนการศึกษาในฐานะเด็กเรียนดี ตัวแทนของห้อง

 

อาจารย์ใหญ่ กนก จันทร์ขจร ยืนแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนอันดับหนึ่งของทุกห้องอยู่บนเวทีหลังการเคารพธงชาติ โดยมีอาจารย์ทองปานเป็นผู้ประกาศรายชื่อนักเรียนที่จะขึ้นรับรางวัลทีละคนโดยเริ่มจากนักเรียนชั้น ม. 1/1 ไล่เรียงกันไปจนถึงเด็กโต

 

นักเรียนห้อง ม.1/1 เด็กชายวิษุวัติ ศิลปรังษี เกรดเฉลี่ย 3.97แล้วเสียงปรบมือก็ตามมาเมื่อน้องวิษุวัตก้าวขึ้นมารับซอง 300 บาทจากมืออาจารย์ใหญ่กนก

 

ต่อจากนั้นนักเรียนคนต่อไปก็ทยอยขึ้นเวทีตามเสียงขานชื่อพร้อมกับเสียงปรบมือเป็นระยะจากนักเรียนที่อยู่ข้างล่างเวทีทั้งโรงเรียน

 

นักเรียนห้อง ม. 3/3 นายพงศ์ศักดิ์ อัครเศรณี เกรดเฉลี่ย 3.75” (แปะ แปะ แปะ ๆๆๆ)

 

นักเรียนห้อง ม. 3/4 นายเกรียงไกร บุญยศักด์ เกรดเฉลี่ย 3.83” (แปะ แปะ แปะ ๆๆๆ)

 

……………….

………………

 

นักเรียนห้อง ม.413 นายดิเรก อามาตยากุล เกรดเฉลี่ย 3.90” (แปะ แปะ แปะ ๆๆๆ)

 

………………

 

นักเรียนห้อง ม.431 นายอภิสิทธิ์ ฟูเผ่า เกรดเฉลี่ย 3.85” (แปะ แปะ แปะ ๆๆๆ)

 

ใกล้ถึงห้องเราละไอ้เหม่งที่ยืนถัดจากผมเอ่ยขึ้น ในขณะที่ตาก็จ้องชะเง้อมองดูเดชาว่าอยู่ตรงไหนของเวที

……………….

 

นักเรียนห้อง ม. 521 นายวิชชุกร แซ่แต้ เกรดเฉลี่ย 3.81” (แปะ แปะ แปะ ๆๆๆ)

 

นักเรียนห้อง ม. 522 นายเดชา ตระกูลมณีเนตร เกรดเฉลี่ย…..(แอบนิ่งไปครู่)…. สอ สองงงง จุด  สอง สอง (แปะ แปะ ….หา !! แล้วก็มีเสียงอื้ออึงสลับกับเสียงหัวเราะ)

 

พวกเราแก็งค์ถั่วงอกพอเห็นเดชาปรากฏตัวก็โห่ร้องไชโยแสดงความยินดีด้วยกับไอ้เด ท่ามกลางการหันหน้ามาดูจากบุคคลทั่วสารทิศทั้งโรงเรียน นักเรียน อาจารย์ ภารโรง และผู้ปกครอง ทั้งหมดส่งทุกสายตาจ้องมองควานหาแถวของนักเรียนห้องสองสอง ห้องที่ตัวแทนของพวกเขากำลังยื่นมือรับซอง300 อยู่บนเวที บนความสงสัยของของคนทั้งหลายว่า ถ้านายเดชาบนเวทีข้างบนได้เกรดเฉลี่ย 2.22 ยังได้ที่หนึ่งของห้อง แล้วมนุษย์ที่กำลังเฮฮายินดีกับเพื่อนของเขาอย่างสุดหัวใจ ณ. แถว ม.ปลาย ห้องสองสองที่เหลือ พวกเขาจะได้เกรดเท่าไหร่กัน

 

ทุกคนส่งเสียงหัวเราะให้กับความสามารถทางการเรียนของห้องเรากันจวบจนเดชาก้าวเดินลงจากเวที และช่วงนี้นี่เองที่ผมได้ยินไอ้ฉิ เพื่อนสนิทต่างห้องอีกคนของแก็งค์ถั่วงอกในแถวของนักเรียน 531 สายวิทย์คณิต ที่เข้าแถวต่อจากห้องเรากำลังปรบมือเสียงดังเปาะแปะก่อนส่ายหน้าไปมาและพูดปนน้ำเสียงไม่น่าเชื่อออกมาว่า

 

กูก็ได้ 2.22 แต่ในห้องกู กูได้ที่โหล่ ถ้ากูอยู่ห้องมึง ตอนนี้กูได้ขึ้นไปรับเงิน 300 บนเวทีเลยเหรอเนี่ยะ !!”

 

นั่นคงเป็นหลักฐานยืนยันอย่างดีแล้วว่า แก็งค์ถั่วงอกรักเรียนกันขนาดไหน แม้ว่าเดชาจะดูเป็นคนตั้งใจเรียนที่สุดในห้อง แต่หากโดนวัฒนธรรมการเล่นสนุกของพวกเราเข้าครอบงำ ความบ้าบอคงทำให้เดชาเรียนดีเด่มาจากที่ไหนก็ทำได้เพียง 2.22 เท่านั้น เพราะบรรยากาศการเรียนหนังสือของห้องถั่วงอกไม่มีทางเอื้ออำนวยให้คนเก่งจากไหนทำเกรดเฉลี่ยได้เกิน 2.5 หรอก อย่างไรก็ดี ไอ้เด ก็ยังนำความภาคภูมิใจมาสู่ทุกคนในห้องสองสองได้ เมื่อมีโอกาสตอนทุกคนกำลังร่วมฉลองความสำเร็จให้เดชา ผมแอบถามไอ้เดว่ารู้สึกยังไงบ้าง มันบอก มันอายมาก ตอนอยู่บนเวทีรับซองแล้วได้ยินเสียงหัวเราะจากคนทั้งโรงเรียน

 

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ห้องเรียนเราในช่วงเวลา ม. 5 เทอมหนึ่ง ผู้ใดได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 0.9 ขึ้นไป จะสามารถได้เลขอันดับตัวเดียวของห้องไปอวดผู้ปกครองได้ เพราะตั้งแต่ที่หกลงมา ก็ขึ้นต้นด้วย ศูนย์จุดเก้ากันแล้ว

 

เราเติบโตมายังสังคมทุกวันนี้ก็ด้วยความรู้ในวันนั้น

 

เดชา จึงเป็นเสมือนดั่งหน้าตาของห้องเรียนเราในเรื่องวิชาการ จึงไม่แปลกเลยที่คนเรียนดี รักดีอย่างเขา ครั้งหนึ่งจะเคยได้เป็นถึงหัวหน้าห้องของแก็งค์ถั่วงอกด้วย

 

จากวันที่เรียนจบจากกันจนถึงจวบจนวันนี้ เดชา หายจากเราไปซะนาน แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสพบกับเขาอีกครั้งเมื่อในพวกเราใครคนหนึ่งโทรศัพท์ไปหาไอ้เด แล้วนัดเจอกันที่สนามบอล เดชาปรากฏตัวต่อหน้าแก็งค์ถั่วงอกในวัยพ้นสามสิบขวบอีกครั้ง  ถามไถ่สารทุกข์กันก็พบว่าหลังเรียนจบทวีธาและมหาวิทยาลัย ไอ้เดเปิดอู่แท็กซี่อยู่พักหนึ่งก่อนหันมาจับธุรกิจส่วนตัว ในวันนั้นเราก็ยังเล่นหัวชวนคุยกันเหมือนเดิม ก่อนเดชาลากลับเราบอกว่า เรายังคบกันอยู่ ว่างเมื่อใดมาเจอกันได้เสมอนะ

 

ถ้าสองจุดสองสอง ไม่รังเกียจ กลุ่ม ศูนย์จุดเก้าละก็

 

ขอเชิญ…ครับ

 

เพราะความสนุก…ไม่ได้น้อยหรือหยุดอยู่แค่ตัวเลขเกรดเฉลี่ย

 

เดชา ตระกูลมณีเนตร นักเรียนคนที่ 22 ห้อง 22 เกรดเฉลี่ย 2.22 ทวีธา’97

 

พริ้วไหวดั่งสายน้ำ

15 กรกฎาคม 2549

Leave a comment