แถลงการณ์#58

 
ออกจะปัจจุบันทันด่วนสักนิดนึงนะครับ เสาร์นี้(4 ตุลาคม 2551) โก๋ยุทธนัดกินโต๊ะแชร์ครั้งที่11กันเลย ส่วนสถานที่ก็คือ ร้านGoodView ถนนตก ตั้งแต่เวลา18.00น. เป็นต้นไป สมาชิกแชร์ทุกท่านกรุณาพร้อมเพรียง อย่าลืมว่านี่คือโก๋ยุทธ ย้ำ นี่คือโก๋ยุทธ
 
ส่วนข้างล่างต่อจากแถลงการณ์นี่ ก็เป็นเรื่องราวของเพื่อนรักคนหนึ่งที่อยู่ๆก็นึกครึ้มอยากเขียนถึงขึ้นมา จอห์นนี่ ที่รักของ(เพื่อน)ทุกคน

จอห์นนี่ที่รัก

 

 

หากจะหลับตานึกถึงตัวตนในแต่ละคนของแก็งค์กวนป่วนโรงเรียนอย่างกลุ่มคนถั่วงอก ในพอ ศอนั้น สำหรับใครที่ไม่ใช่คนในอาจจะพอนึกไปถึงเด็กเฮ้ว แก่นเซี๊ยว ซ่า บ้าบอ ในอิจเมทที่พอจะกักขฬะอยู่บ้าง  ใช่ครับ พวกเราโดยมากมักเป็นไปตามภาพลักษณ์ที่กล่าวมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า มันคือทั้งหมด

 

เพราะมีอีกหนึ่งหนุ่ม ที่เป็นไปในแบบตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

 

พฤติกรรม ดิบๆ ถ่อยๆ ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเพื่อนคนนี้อย่างแน่นอน เพราะหากจะต้องเอื้อนเอ่ยถึงเขานั้น คำว่า หรูหราและคลาสลิก น่าจะใช่คำนั้นซะมากกว่า

 

ผมกำลังจะหมายถึงโก๋อ้วนครับ

 

ส่วนข้อข้องใจในความต่างของคำว่าดิบๆ ถ่อยๆ กับ หรูหราและคลาสลิกนั้น เชิญบรรทัดต่อจากนี้เลยครับ

 

เสื้อยืดตราห่าน กับ แบรนด์เนมอาร์มานี่

ตลาดนัดริมทาง กับ ห้างเอ็มโพเรียม

เครื่องดื่มคาราบาวแดง กับ คาปูชิโน่ฟองนุ่ม

ร็อก สะเดิด กับ ฟิวชั่น แจ๊ส

หนังสือนวลนาง กับ นิตยสารFHM

 

ครับ ใครที่รู้จักกับโก๋อ้วนดี คงต้องเลือกในอย่างหลังแทนที่จะเป็นอะไรที่ร้องยี้ในสายตาของโก๋อ้วนถ้าหากจะเลือกกันในอย่างแรก เพราะตัวตนของโก๋อ้วนในห้องเรียนสองสองนั้นเป็นไปในแบบที่อัพเกรดเหนือใครๆหากจะต้องพูดกันถึงเรื่องรสนิยมเพียวๆ สาบานได้ว่าถ้าจะต้องนึกถึงโก๋อ้วนในเวลาที่ปวดขี้เข้าส้วม ผมนึกไม่ออกเลยจริงๆกับภาพโก๋อ้วนนั่งยองๆกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐคอลัมม์ลุงหนวดหาคู่  หากแต่มันต้องนั่งไขว้ห้างบนสุขภัณฑ์หรู ขณะที่ในมือของเขาก็สมควรจะเป็นบางกอกโพสต์มากกว่าหนังสือพิมพ์ชาวบ้านอย่างนั้น

 

และยิ่งถ้าจะให้นึกย้อนกลับไปในวันแรกของเขากับสังคมถั่วงอก หลังจากต้องย้ายโรงเรียนจากเดิมพาณิชย์ราชดำเนินมาเป็นทวีธาภิเศก มนุษย์ที่มีข้อจำกัดในเรื่องความสูง หากแต่หน้าตาดีกระเดียดไปทางฝรั่งบ้างอย่างโก๋อ้วน ก็ต้องค้นพบการปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เมื่อฟ้าลิขิตให้เขาต้องจำใจมาอยู่ร่วมกับมนุษย์ดิบอย่างแก็งค์ถั่วงอก

 

และยิ่งต้องเผชิญหน้ากับแก็งค์ถั่วงอกบ้านทุ่งพัฒนาในเวลานั้น อย่างไอ้รินทร์ ระยอง, โก๋เขียว สุพรรณ, แมงวัน กระบี่, หรือโก๋แก่ เมืองกาญจน์ ด้วยแล้ว โก๋อ้วนเกิดอาการไม่เข้าใจตัวเองอยู่นานว่า ตกลงแล้ว กูมาทำอะไรที่นี่ แทนที่จะเป็นโรงเรียนอินเตอร์เนชั่นแนล

 

แต่เอาเถิด ตัดเรื่องเหตุผลกลใดของการมาเป็นนักเรียนทวีธาออกไป วันนั้น เด็กหนุ่มหน้าใสจิตใจไฮโซ กับการปรากฏโฉมครั้งแรกในแบบที่ล่าช้ากว่าเพื่อนนักเรียนคนอื่นหนึ่งอาทิตย์ ก็เกิดความต่างในเรื่องของรูปธรรมภายนอกจากพวกที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น และที่ว่าต่างก็เพราะ เสื้อผ้าหน้าผมของเขา เรียบร้อยดูดี ดุจดังผู้ดีสีขาวที่วาดฝันไว้ในบรรยากาศการเรียนหนังสือแบบที่นักเรียนอินเตอร์พึงควรจะเป็น แม้กางเกงสแลค กับสูทเนคไท อาจไม่ใช่เครื่องแบบที่โก๋อ้วนได้สวมใส่ในทวีธา แต่การตัดทรงผมรองหวี กับยูนิฟอร์มขาสั้นในความหมายของเสื้อผ้าเรียบกริบของโก๋อ้วนก็ยังเป็นอะไรที่ดูพอมีคลาสกว่าแก็งค์ถั่วงอก บ้านทุ่งพัฒนาพอ ศอนั้น ที่มาในแบบหลุดหลุ่ยตามมีตามเกิดกัน

 

และไอ้การเผชิญหน้าระหว่างโก๋อ้วนและกลุ่มพันธมิตรบ้านนอกกลุ่มนั้น มองมุมไหน เขาและมันก็ไม่อาจดูเข้าพวกกันได้เลย  เหมือนเอานักร้องพรศักดิ์ ส่องแสงมายืนเป่าแซกโซโฟนเพลงของเคนนี่ จี  ซึ่งนี่ขนาดเอาแค่ภาพลักษณ์ภายนอกในวันนั้นมายกเปรียบเทียบกันนะครับ แล้วถ้าเรื่องความเป็นไปในความหมายรสนิยมส่วนตัวอีกละครับ

 

ช่องว่างที่ว่าก็ประมาณฟ้ากับเหว

 

แล้วหรูหรากับดิบเถื่อน จะไปด้วยกันยังไงได้ละ

 

ได้สิครับ ถ้าบุคคลหรูผู้นั้นต้องตกระกรำลำบากในการมีชีวิตร่วมกับคนถั่วงอกเป็นเวลาสามปี ช่วงเวลาสามปีเป็นระยะเวลากลมกล่อมพอดีที่แก็งค์กวนจะชวนโก๋อ้วนให้ร่วมกลมกลืนไปกับพวกเขาได้ ซึ่งส่วนผสมสำคัญที่ทำให้โก๋อ้วนลดคลาสลงมาพบปะประชาชนถั่วงอก ก็สมควรต้องมีที่มา หรืออาจพูดได้ว่ารสนิยมหรูหราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้บ้างเลย ถ้าไม่ได้พบกับเขาผู้นั้น

 

มนุษย์เชื้อโรค โก๋เมศร์

 

เฮ้ย….เตะบอลเป็นป่าววะมึงงะ เดี๋ยวกลางวันนี้เล่นด้วยกันมั๊ย โก๋เมศร์กล่าวทักทายพร้อมแสดงไมตรีแห่งความสนิทด้วยการยื่นแขนไปโอบกอดรอบคอบนบ่าเสื้อนักเรียนรีดเรียบกริบของโก๋อ้วน

 

ไม่ทันที่เข็มวินาทีจะกระดิกไปจากเดิมสักเท่าไหร่ โก๋อ้วนก็สะบัดตัวฉากหลบออกจากการเข้ามาโอบล้อมของโก๋เมศร์ ในความหมายที่ว่า การกอดคอกันเมื่อตะกี้หากนานไปกว่านี้ อาจทำให้เสื้อนักเรียนสีขาวตัวนั้นของเขาเกิดรอยยับได้

 

เกิดรอยยับได้…. ขนาดเสื้อนักเรียนยังให้ความสำคัญ เรียบเนี๊ยบ เข้าไว้ แล้วนับประสาอะไรกับการที่จะต้องลงไปวิ่งไล่เตะบอล เหงื่อซกๆ กับฝุ่นทรายของสนามโรงเรียนทวีธาภิเศก ในช่วงเวลาพักกลางวัน ดั่งที่โก๋เมศร์ชวน

 

ดังนั้น โก๋อ้วนจึงเป็นเพียงแค่ผู้ชมที่มองจากด้านบนของตึกสุรชัยรณรงค์อยู่เสมอ ในยามที่แก็งค์ดิบเถื่อนถั่วงอกเอ็นจอยสงครามแข้งกับการวิ่งไล่ลูกฟุตบอลหนังเปเล่ ท่ามกลางบรรยากาศร้อนตับแตกฝุ่นคลุ้งของโรงเรียน

 

แม่ง โคตร อุบาวท์ อาจเป็นถ้อยคำที่โก๋อ้วนสบถออกมา หลังจากที่เห็นพวกเรากลับจากสนามฟุตบอลในสภาพมอมแมมเหงื่อโทรม ถุงเท้าดำ

 

เวลานั้น สำหรับโก๋อ้วนคงนึกอยากให้ทวีธาภิเศกมีสันทนาการกีฬาที่ชื่อว่า สควอท มากกว่าสนามกีฬาฟุตบอลเปื้อนฝุ่นที่เห็นแล้วต้องร้องยี้ เบือนหน้าหนี ในทุกครั้ง

 

หรือแม้แต่เวลาที่ฟุตบอลเลิกเล่นกันแล้ว สำหรับนักฟุตบอลแข้งทองทั้งหลาย อาการกระหายน้ำต้องตามมาอย่างแน่นอน ดังนั้นการมองหาความสดชื่นจึงเป็นสิ่งที่โก๋เมศร์กำลังเล็งหาอยู่หลังจากเอามือปาดเหงื่อไหลไคลย้อยบนใบหน้าเยิ้มๆอันนั้น ซึ่งมันก็ดันบังเอิญว่า โก๋อ้วน ที่พึ่งเสร็จสิ้นการรองท้องด้วยมื้อเที่ยง ก็กำลังซื้อเครื่องดื่มแก้กระหายที่ว่านั้นอยู่พอดี

 

โคคา โคล่า ความสดชื่นในรูปแบบแก้วใหม่เอี่ยม กำลังจะจะถูกละเลียดลงคอโก๋อ้วนอยู่แล้ว หากไม่ปรากฏการมาถึงของโก๋เมศร์ ที่พุ่งเข้ามาคว้าแก้วความสดชื่นนั้นซัดไปหนึ่งอึกใหญ่ก่อนที่จะส่งกลับคืนให้โก๋อ้วน

 

เป็นคนอื่นอาจไม่คิดมากอะไร กะอีแค่การดื่มน้ำปากต่อปากจากแก้วเดียวกัน แต่อย่างที่บอกละครับว่า ระดับช่องว่างฟ้ากับเหวของโก๋อ้วนกับสังคมถั่วงอกมันมีจริง

 

ดังนั้น การต้องเสียเงินซื้อโค้กแก้วใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่โก๋อ้วนยินยอมทำเพื่อความสบายใจในเรื่องของสุขอนามัยที่อาจไม่ได้รับเท่าไหร่จากมนุษย์เชื้อโรคอย่างโก๋เมศร์

 

และยิ่งเรื่องรสนิยมในการฟังเพลงอีก ที่สองคนคู่นี้มักมีช่องว่างห่างกันไกลกว่าชาวบ้านคนอื่นเขา โก๋เมศร์เลือกที่จะเป็นผู้ขายวิญญาณให้กับ แอ๊ด คาราบาว และรวมไปถึงเพลงเพื่อชีวิตจากศิลปินคนอื่นในแนวนั้น ซึ่งบังเอิญพอดีว่าช่วงเวลาขณะนั้น วงซูซูกำลังมาแรงจนเป็นที่น่าจับตาของผู้รักเสียงเพลงเพื่อชีวิต ไม่ใครหรือใคร จะสาวกหรือไม่สาวกเพื่อชีวิต ก็ต้องมีโจ๊ะๆไปกับจังหวะสนุกของซูซูบ้าง แต่ความมันส์ห่ามสนุกในแบบพื้นบ้านแบบนั้น มันกลับไม่ได้อยู่ในสายตาของโก๋อ้วนที่สบถออกมาเพียงว่า แม่ง โคตร อุบาวท์ ยามที่ได้ยินบทเพลงลำเดินจากวงซูซูเลย

 

หรือแม้ว่ากระแสวัยรุ่นไทยในคราวนั้น จะชูมือขวาให้กับหนุ่ย อำพล กับอัลบั้มเดี่ยววัตถุไวไฟที่ร้อนแรงถล่มถลายหัวใจวัยเฮ้วอย่างเป็นที่สุด แต่ภาพลักษณ์และตัวตนของร็อกมือขวากลับถูกโก๋อ้วนปฏิเสธด้วยถ้อยคำที่แย่ยิ่งกว่าวงซูซูว่า ยี้…แม่งโคตร ลาวเลยวะ

 

อ้าว…แล้วอย่างนั้น รสนิยมเพลงหรูถูกใจของโก๋อ้วนคืออะไรครับ

 

คำตอบของคำถามนี้ ก็มาตรงกับอัลบั้มเปิดตัวหนุ่มนักเรียนนอก ภาพลักษณ์ดูดี มีชาติตระกูล ที่หันมาร้องเพลงออดอ้อน ในอัลบั้มแรกภายใต้ชื่อชุด ขอเป็นพระเอก กับวลีคำร้องสุดฮิตที่ว่า …กลางวันฉันเหงา กลางคืนฉันโหยหา คิดถึงทุกเวลาห้านาที เป็นคนขี้เหงา เข้าใจบ้างสิ มีใครบ้างเป็นห่วงเป็นไย….

 

ใช่ครับ…มันต้อง ร้องเพลงเก๊กหล่อดูดีแบบนีโน่ พระเอกลูกครึ่งคนนั้น ไม่ใช่ไปเที่ยวยืนเย้วเก๊กหล่อแล้วเดินตกเวทีแบบพระเอกวัยโจ๋อย่างพี่หนุ่ย ไมโคร ครับ ที่โก๋อ้วนจะหลงไหลได้ปลื้ม

 

แต่ถึงแม้ว่า ความต่างด้านรสนิยมจะมีค่าตั้งไว้สูงส่งสักเพียงใด ก็ต้องถึงวันที่แก็งค์ถั่วงอกกับโก๋อ้วนได้ปรับจูนเข้าหากันจนได้ เมื่อคนป่วนโลกโก๋เมศร์ที่ยังไม่หยุดการทำเลวทรามในแง่ของเรื่องยี้ๆใส่ตัวโก๋อ้วนอย่างต่อเนื่อง ประมาณว่า อ๋อมึงไม่ชอบอย่างนั้นใช่มั๊ย งั้นกูจัดให้เอง ดังนั้น โก๋เมศร์จึงเป็นหัวหอกตัวนำเลยในการกระทำการขัดใจพฤติกรรมโก๋อ้วนอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การดีดใส่ขี้มูก การโชว์เสลดก้อนเขียว หรือจะเป็นชอตระเบิดขี้หมา โดยมีเป้าหมายอยู่ที่โก๋อ้วน สิ่งเหล่านี้นานๆเข้ากระมังที่ทำให้ฟ้ากับเหว เริ่มย่อส่วนลงมาจนเกือบจะเท่ากันพอดี

 

ดังนั้น ในปีต่อๆมาพวกเราจึงได้เห็นโก๋อ้วนเริ่มลงมาวาดลวดลายเล่นฟุตบอลกับพวกเรากันบ้าง ซึ่งการลงสนามในฐานะนักเตะบางพลัดก็จำเป็นจะต้องมีสมญานามภาษาฝรั่งให้โก๋อ้วนได้ใช้ในเวลาเรียกชื่อกันสักหน่อยเพื่อเป็นเกียรติและเพื่อเพิ่มความเป็นอินเตอร์ให้กับทีมฟุตบอล ซึ่งก็ตรงกับความพอใจของโก๋อ้วน ผู้ซึ่งอยากมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว และด้วยการที่เจ้าตัวคลั่งไคล้ทีมชาติเยอรมันตะวันตกในเวลานั้น โก๋อ้วนตกลงขอเป็น โธมัส เฮสเลอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเอ้ของทีมเยอรมัน

 

ดังนั้น ในทุกพักกลางวันหรือหลังเลิกเรียน ทีมบางพลัดจะมี มนุษย์ตัวสั้นๆคอยวิ่งขึ้นลงอยู่ทางกราบขวาของทีม พร้อมเสียงเรียก เฮสเลอร์ เฮสเลอร์ อยู่เสมอ

 

ครับ ลีลาในเชิงลูกหนังของโก๋อ้วนอาจเทียบไม่ได้เลยกับนักเตะจอมคลาสลิกคนนั้น แต่ถ้ากับเรื่องของส่วนสูงแล้วละก็ โก๋อ้วนใกล้เคียงกับยอดคนแสนคมคนนั้นซะเหลือเกิน และด้วยเรื่องของสมญานามกับการเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับพวกถั่วงอก ก็เป็นเหตุให้โก๋อ้วนได้ชื่อฉายาเรียกอีกชื่อหนึ่งจากแก็งค์ถั่วงอกที่ใครพอจะจำกันได้บ้างว่า โก๋อ้วนคือ…

 

……เต่า

ก็ในเมื่อ พวกเราเล่นบอลกันซะเหงื่อซกขนาดนั้น ดังนั้นวงแขนของวัยรุ่นชายไทยยามเสร็จภารกิจทางกีฬากลางแจ้ง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยกับการที่จะต้องมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเต่าออกมาเดินเล่นเพ่นพ่านกันบ้าง แต่ทำไมเต่าของทุกคนกลับไม่ถูกจดจำเท่ากับเต่าของมนุษย์คลาสลิกโก๋อ้วน ที่ถึงขนาดว่าเวลานั้น ชื่ออัลบั้ม ใต้ปีกฝัน ของโอ๋ ไอศูรย์ และเพลง ฉันจะบิน ถูกนำมาใช้ล้อเลียนอานุภาพใต้ปีกฝัน ของโก๋อ้วนกันอยู่บ่อยๆ

 

เวลานั้น เพลงฉันจะบิน บินไป ไกลแสนไกลไม่หวั่น หรือแม้แต่ เสียงเรียกพี่โอ๋ พี่โอ๋ในความหมายคือโก๋อ้วน ก็ถูกคนสองสองเอามาล้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน

 

หรือนี่อาจจะเป็นเหตุหนึ่งกระมัง ที่โก๋อ้วนไม่ยอมร่วมเล่นฟุตบอลกับพวกเราในตอนแรกๆ แหม…ก็ หอมๆ คลาสลิกอยู่ดีๆ จะให้เสียฟอร์มลูกทุ่งกลิ่นโชยได้อย่างไร

 

และก็ยังมีอีกครับ สำหรับชื่อฉายาเรียกของโก๋อ้วนในเวลานั้น ใครก็ตามที่มีโอกาสได้ดูการ์ตูนยอดฮิตตอนเย็นก่อนข่าวทางช่อง9 อสมท.ในทุกวัน ก็จะได้เห็นภาพตัวการ์ตูนฝรั่งเป็นคนแคระสีน้ำเงิน ที่อยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านพร้อมกับเรื่องราวความวุ่นวายอันเป็นที่มาของความบันเทิง

 

โก๋อ้วน ไม่ได้มีส่วนเหมือนในเรื่องของความวุ่นวายบันเทิงอะไรหรอกครับ หากแต่ว่ามนุษย์หนุ่มคลาสลิกคนนี้มีส่วนคล้ายกับเจ้าตัวเล็กสีน้ำเงินพวกนั้นในเรื่องของส่วนสูงต่างหาก และด้วยวัยวุฒิของโก๋อ้วนที่เมื่อมองจากปีเกิดเปรียบเทียบกับทุกผู้ทุกคนในแก็งค์ถั่วงอกแล้ว พวกเราทั้งห้องสองสอง จึงพร้อมใจกันเรียกโก๋อ้วนว่า ปาป้า สเมิร์ฟ กันอีกชื่อหนึ่ง

 

และจากการที่เล่ามา ใครก็ตามที่ถูกเพื่อนฝูงให้ความสำคัญในเรื่องของชื่อฉายาและที่มาความสนุกต่างๆ แน่นอนแหละว่าเขาผู้นั้นย่อมเป็นที่รักของทุกคนในห้องกัน แล้วเมื่อถึงเวลาที่เพื่อนผู้เป็นที่รักของห้องสองสองคนนี้เกิดมีความรักขึ้นมาตามประสาวัยรุ่นแตกเนื้อหนุ่มบ้างละ ใครเล่าในห้องสองสองจะไม่สนใจ

 

ความเป็นนักรักของโก๋อ้วน เริ่มต้นด้วยการตื่นแต่เช้าไปยืนดักรอสาวสวยโรงเรียนชิโนรส โรงเรียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทวีธาภิเศก ในทุกวัน ณ สถานที่ที่เรียกกันว่า สถานีรถไฟบางขุนนท์

 

อ้อย คือชื่อของผู้หญิงสวยคนที่ว่า ที่มักเดินลงมายังชานชลาในช่วงเวลาเร่งรีบ ก่อนขึ้นรถเมล์อีกทอดต่อไปยังโรงเรียนชิโรรส ซึ่งไอ้การพบเจอกับสาวในฝันทุกเช้า ก็ทำให้โก๋อ้วนก่อเกิดความเคลิ้มฝันหลงเพ้อถึงขนาดทำให้เพลงเพื่อชีวิตที่เคยร้องยี้อย่าง ไม่เคย จากวงคาราบาว กลายเป็นเพลงแอบรักประจำตัวของโก๋อ้วนในเวลานั้นได้เหมือนกัน

 

แอบเอาไปฝัน แอบเอาไปเพ้อ เพ้อเพ้อเพ้อ ในดวงใจ……

 

เมื่อเพ้อกันถึงขนาดนั้น  แล้วมีหรือที่เพื่อนพระเอกอย่างแก็งค์ถั่วงอกจะอยู่เฉย ดังนั้นเมื่อทุกอย่างต้องเพื่อเพื่อนและเพื่อเธอ พวกเราก็จำเป็นต้องขอเสล่อออกมาดักซุ่มดูตัวสาวน้อย อ้อย อิ่มใจ กับยอดนักรักประจำห้องสองสองกันในช่วงเวลาที่คนถั่วงอกยอมแหกขี้ตาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อไปเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพ่อยอดชายนายอ้วน

 

และเมื่อเราทั้งหมดเกือบสิบกว่าชีวิตมาซุ่มประจำการกันอย่างพร้อมเพรียงยังสถานที่พบรัก ก็ถึงเวลาที่คู่พระนางต้องปรากฏตัว ไอ้ตัวพระนะเห็นแล้วครับ เดินตัวเตี้ยๆ ตะคุ่มตะคุ่มมาจากทางลัดเข้าซอยบ้านมัน ก็เหลือแต่ขบวนรถไฟรักที่จะพาตัวสาวเจ้ามาปรากฏโฉมว่าอนงค์นางจะงามซะขนาดไหน พระเอกนักรักของเราถึงได้หลงเพ้อซะขนาดนั้น ไม่ช้าเกินรอครับเวลาที่พระเอก นางเอก ได้เจอกันก็มาถึง เมื่อรถไฟเทียบท่าชานชลา ท่ามกลางการชะเง้อมองหาของพระเอกหนุ่มตัวสั้น และการลุ้นสุดตัวของเพื่อนพระเอกสิบคน

 

นาทีนั้น กลุ่มกองเชียร์เพื่อนอ้วน ลุ้นกันสนุกสนานแล้วละครับว่า ภาพที่เห็นต่อจากนี้ คือพระเอกตัวสั้นหามุกหมาเน่ามาแกล้งทักนางเอก(ที่เราก็เห็นกันแล้วว่า งามระดับดาวโรงเรียนเลยทีเดียว) และแอบตีสนิทเข้าทำความรู้จัก จากนั้นก็ใช้ความสม่ำเสมอในการพบกันทุกเช้านำทางไปสู่แผนลิ้มรสหวานของน้ำอ้อย

 

ครับ บทรักควรจะโรแมนติคจนถึงขั้นร้อนแรงมากกว่านี้แน่ๆในอนาคตถ้าเขาทั้งสองได้มีโอกาสรู้จักกัน หากแต่วันนั้นขาก้าวสั้นๆของโก๋อ้วน ก้าวไปยังไม่ทันจะถึงตัวของน้องอ้อย ก็เป็นเธอที่โบกมือยิ้มทักให้กับใครสักคนหนึ่ง ใครคนที่ซึ่งกำลังขี่มอเตอร์ไซค์มาเทียบเคียงกับจุดที่เธอนัดหมายให้มาเจอ

 

การแสดงความสนิทสนมจนถึงขั้นขึ้นนั่งเกาะเอวซ้อนท้าย ก่อนที่ภาพสวีตหวานบนหลังเบาะมอเตอร์ไซค์จะค่อยๆหายไปต่อหน้าต่อตาโก๋อ้วนนั้น เป็นสิ่งที่ที่บ่งบอกได้เพียงอย่างเดียวว่า โก๋อ้วนได้กินแห้ว แทนที่จะได้กินอ้อย

 

เพราะ ขนาดเพื่อนพระเอกอย่างเราๆ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็พอจะรู้ได้ทันทีว่า สองคนนั้น เขาน่าจะเป็นแฟนกัน มาสักพักนึงแล้ว และวันนี้ฝ่ายชายคงเพิ่งจะมีพาหนะเป็นของตัวเองมาคอยรับส่งสาวเจ้าได้ ซึ่งต่อจากนี้เขาและเธอก็คงมีความสุขกระหนุงกระหนิงกันบนเบาะมอเตอร์ไซค์ต่อไปและต่อไปตราบนานเท่านาน ดังนั้น การตัดใจจากภาพปวดร้าวข้างทางรถไฟในวันนั้นจึงเป็นทางเลือกของพระเอกนักรักห้องสองสอง แทนที่จะดื้อดึงตื่นเช้ามายืนยิ้มกรุ้มกริ้มให้กับรถไฟสายกรุงเทพ นครปฐมดั่งเช่ยเคยๆเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

 

…กลางวันฉันเหงา กลางคืนฉันโหยหา คิดถึงทุกเวลาห้านาที เป็นคนขี้เหงา เข้าใจบ้างสิ มีใครบ้างเป็นห่วงเป็นไย….

 

และถ้าจะพูดต่อถึงโก๋อ้วนในอีกสักเรื่องละก็ เชื่อเถิดครับว่า ต่อไปนี้คือวีรกรรมสร้างชื่อเสียงระดับตำนานเล่าสู่ยันลูกหลานของโก๋อ้วนเลย

 

ความเดิมจากการผูกใจเจ็บเจ้าหนุ่มสิงห์มอเตอร์ไซค์ที่ตัดหน้ามาแย่งสาวคนรักนั้น นำมาสู่ความอยากจะเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกับเขาบ้าง และในเมื่อเวลานั้น โก๋เชษฐ์ เพิ่งจะถอย ฮอนด้า โนว่า มาเป็นพาหนะขับขี่ทั้งในยามมาเรียนและกลับบ้านด้วยแล้ว มีหรือที่เพื่อนซี้อย่าง โก๋อ้วน จะไม่ขอลองหัดซิ่งกับเขาดู

 

ครับ…วันนั้น หลังเลิกเรียน เป็นเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ๋ในรั้วทวีธา กำลังทยอยกันเดินทางกลับบ้าน รวมไปถึงคนในจำนวนอีกส่วนมากก็กำลังวิ่งเล่นกีฬาฟุตบอลอยู่ใจกลางสนามของโรงเรียน ซึ่งก็รวมไปถึงแก็งค์ถั่วงอกบางพลัดบางกระดี่ด้วย

 

เรากำลังเล่นฟุตบอลกันอย่างเมามัน แต่ไม่ใช่กับเขาครับ แบ็คขวาบางพลัด โธมัส เฮสเลอร์

 

เกมดำเนินเล่นกันไป จนผมเริ่มประหลาดใจอยู่สักพักหนึ่งว่าเอะทำไมวันนี้ ฝั่งขวาบางพลัดเราอะไรมันขาดๆ แหว่งๆ หายไปไหน คำตอบนั้นมาเฉลยเอาที่ ผู้เล่นแบ็กคลาสลิกคนนั้นกำลังจะเอาดีทางด้านการขับขี่ซิ่งมอเตอร์ไซค์แทน โดยภาพที่เห็นนั้นก็คือ โก๋อ้วนกำลังซ้อมออกตัวแบบเท่ห์ๆกับฮอนด้า โนว่าคันนั้นอยู่ข้างๆสนามบอลที่เราเล่นกันอยู่

 

จนเมื่อศึกบางพลัด บางกระดี่ ผ่านพ้น และเราเข้ามานั่งพักหายเหนื่อยเติมความสดชื่นยังที่นั่งประจำริมสนาม ก็เป็นโก๋อ้วนที่ตรงดิ่งเข้ามาหาพวกเราบนความมั่นใจในอะไรบางอย่างที่แสดงออกมาด้วยรอยยิ้มว่า กูมีของดีจะโชว์ให้พวกมึงดู

 

ว่าแล้ว ก็หันไปทางมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนซี้  พร้อมกับขึ้นคร่อมไปนั่งยังตำแหน่งคนขับ จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องและไม่ลืมที่จะหยักคิ้วลิ่วตาในมาดของโก๋อ้วนที่เราคุ้นเคย

 

ครับ…เราทั้งหมดนะพอจะรู้อยู่แล้วละครับว่า โก๋อ้วนจะทำอะไร เพราะในเวลานั้น วัยรุ่นไทยคนใครก็ตามที่ได้มีโอกาสเล่นกับสองล้อมอเตอร์ไซค์แล้ว ก็มักจะหาโอกาสออกตัวเสียงเอี๊ยดดังเพื่อความเท่ห์กันทั้งนั้น หากแต่เวลานั้น มันถึงคราวของโก๋อ้วนที่ต้องการโชว์หลังจากสละเวลาเตะบอลเพื่อมาฝึกปรือการยกล้อออกเอี๊ยดกับเขาบ้าง

 

แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบได้ ทำให้ไอ้ฉิ เพื่อนนักเรียนต่างห้อง หกสามหนึ่ง ที่บังเอิญสนิทกับแก็งค์ถั่วงอกเราผ่านมาเห็นเข้าและต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกเท่ห์ในครั้งนั้นด้วย

 

ในระหว่างที่โก๋อ้วนเบิ้ลเครื่องเพื่อเร่งรอบเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ ไอ้ฉิก็โผเข้าซ้อนท้ายยังตำแหน่งเบาะหลังของโก๋อ้วน เวลานั้น ทุกสายตาของแก็งค์ถั่วงอกและรวมไปถึงในทุกสายตาของเหล่านักเรียน ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ นักการ แม่ค้าพ่อขาย หรืออาจพูดได้ว่าแทบจะทั้งหมดของโรงเรียนหันมามองยังต้นเสียงเจ้าของความดังแผดคำรามก้องโรงเรียนจากการเบิ้ลเครื่องยนต์มอเตอร์

 

แว๊น…นนน   แว๊น…นนนนนนนนนนนนนนนน

 

แล้วโก๋อ้วนก็ยิ้ม ยักคิ้วให้อีกทีใส่พวกเรา ก่อนเท้าจะตบเข้าไปที่เกียร์หนึ่ง พร้อมการปล่อยคลัชมืออย่างรวดเร็ว

 

แว๊น…นนนนนนนนนนนนนนนน………..โครม!!!!!!!

 

ครับ..ตอนซ้อมก่อนหน้านั้น ไม่มีไอ้ฉิ ที่น้ำหนักตัวของมันน่าจะตกอยู่ที่ราวๆ70กว่าๆ ซึ่งถือว่าอ้วนแล้วถ้าจะเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆในสมัยนั้น มันจึงเป็นเหตุให้ช่วงท้ายของฮอนด้า โนว่าคันนั้น หนักเพิ่มขึ้น เมื่อบวกกับจังหวะเครื่องยนต์ทะยาน ล้อหน้ายกลอยสูง จากการเข้าเกียร์เดินหน้าอย่างรวดเร็ว ผลที่ตามมาคือโก๋อ้วน พามอเตอร์ไซค์ฮอนด้าคันนั้น ยกล้อตีลังกาหงายท้องโชว์คนทั้งโรงเรียนทวีธาภิเศก

 

หลังเหตุการณ์ ยกล้อลอยฟ้าผ่านไปได้ไม่กี่อึดใจ สิ่งที่ตามมาเท่าที่ผมได้สติหลังจากอ้าปากหวอให้กับความมหัศจรรย์บันเทิงที่เพิ่งจะเห็นผ่านพ้นไปนั้นก็คือ เสียงหัวเราะดังระงมจากทั่วทุกสารทิศ ไม่เว้นแม้แต่เด็กม.หนึ่ง กลุ่มหนึ่งที่ถือไอติมเดินผ่านมาในอารมณ์ขบขันปะปนสังเวชใจแทนรุ่นพี่ ต่อมาก็เป็นภาพซึ่งก็คงเหมือนกับทุกคนทั่วทวีธาภิเศกได้เห็น คือโก๋อ้วนนอนแอ้งแม้งกับพื้น ขาชี้โด่เด่ขึ้นฟ้า เปรียบสภาพ ณ เวลาขณะนั้นก็คงเหมือนกับ เต่าที่โดนจับหงายหลังโดยมีไอ้ฉิเป็นกระดองรองรับ

 

ส่วนมอเตอร์ไซค์ คันใหม่ของไอ้เชษฐ์คันนั้นนะเหรอครับ หน้ากากแตก คลัชหัก สีถลอก ซึ่งก็สร้างความเซ็งสุดขีดให้กับโก๋เชษฐ์ ที่ไม่รู้จะเอายังไงดีต่อกับชีวิต

 

ส่วนพระเอกของงาน หลังจากพวกเราช่วยกันพลิกกระดองให้กับเต่าผู้น่าสงสารในวันนั้นแล้ว โก๋อ้วนก็ทำได้แค่เพียงการขอโทษขอโพยโก๋เชษฐ์ พร้อมกับการจูงรถซิ่งคันนั้น ในสภาพเจ็บไม่เท่าอาย บากหน้าให้กับทุกสายตาขบขันไปหาอู่ซ่อมรถละแวกนั้นอย่างทุลักทุเล

 

เช้าวันใหม่…ลองนึกภาพเรื่องขำขันที่เล่าสู่กันฟังอย่างไม่รู้เบื่อในสังคมถั่วงอกวันนั้นดูซิครับ ใครไม่ฮาบ้างกับซิ่งลอยฟ้าของโก๋อ้วน ซึ่งแน่นอนละครับว่า คนสองสอง รอคอยการปรากฏตัวของ หนุ่มซิ่งคนนั้น ในคาบแรกของเช้าวันนั้นยังห้องเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ อย่างสุดระทึก ใจจดใจจ่อ

 

และเมื่อประตูถูกเปิดเข้ามา จากมือของพระเอกหน้าตาติดลูกครึ่งแต่ตัวสั้นคนนั้นแล้ว วันนั้น เสียงแรกที่พวกเราถั่วงอกตะโกนทัก ร้องเรียกชื่อใส่เขา

 

หาใช่…โธมัส เฮสเลอร์ แบ็กขวาจอมบุกไม่

และก็ไม่ใช่ ไอ้เต่า หรือ พี่โอ๋ ใต้ปีกฝันอีกต่อไป

หรือจะ ปา ป้า สเมิร์ฟ มนุษย์การ์ตูนแคระสีน้ำเงิน นั่นก็ไม่ใช่อีก

 

หากแต่เป็นเสียงเรียกอันพร้อมเพรียงดังๆว่า….

 

สวัสดี…..พี่จอห์น

 

ครับ…เขาได้เป็นพระเอกชื่อฝรั่งสมใจอยากซะที

 

พณ.ดร. ก่อศักดิ์ พิไลพันธุ์พฤกษ์ นักเรียนเลขที่ 40 ห้อง 22 ทวีธา’97

 

พริ้วไหวดั่งสายน้ำ

30 กันยายน 2551

 

ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายที่ทวีธาภิเศก โก๋อ้วนก็เรียนจบระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก่อนบินลัดฟ้าไปคว้าปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัย Macquarie University ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นหนุ่มนักรักพ่วงด้วยตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารกสิกรไทย

 

ปล.1 กาลครั้งหนึ่ง โก๋อ้วนเคยเอ่ยความในใจออกมาว่า เขาอยากมีชื่อเรียกฝรั่งที่ดูเหมาะสมกับหน้าตาเขาสักหน่อย จากชื่อจริง ก่อศักดิ์ พวกเราก็พยายามเรียก กอรี่ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ชอบใจ จนมาถึงเหตุการณ์ ซิ่งลอยฟ้า วันนั้นนั่นแหละ ที่พวกเราปิ๊งขึ้นมาเลยว่า อ้วน ต้องชื่อ จอห์น เท่านั้น เพราะเวลานั้น ใครไม่รู้จักนักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผนชื่อดังของเมืองไทย ที่ชื่อ จอห์น อิสลัม ก็บ้าแล้วละครับ

 

ปล.2 เพื่อเพิ่มเติมความหรูหราและคลาสลิกให้กับโก๋อ้วน การต่อเติมคำนำหน้าอย่าง พณ.ท่าน และ ด๊อกเตอร์ ก่อนชื่อ ก่อศักดิ์ เป็นอะไรที่เหมาะสมแล้วด้วยประการทั้งปวง ทำให้พวกเราแก็งค์ถั่วงอกในปัจจุบัน มักเรียกขานโก๋อ้วนในอีกสมญาหนึ่งที่คุ้นปากว่า ด๊อกเตอร์ กัน

 

 

แถลงการณ์#57

 
จากการปล่อยพื้นที่ตรงนี้ให้กับเหล่าสาวกนกกระเด้าลมได้ยืดอกพองขนหลังจากจบศึกแดงเดือดเที่ยวล่าสุดมาเป็นเวลาเกือบ2อาทิตย์ ก็ถือว่าสาสมแล้วนะครับที่ให้พวกอยู่รูอยู่ถ้ำได้สูดกลิ่นชัยชนะนานๆทีของพวกเขากัน จึงถือโอกาสนี้ ขอปรับสภาพบอร์ดให้กลับมาเป็นปกติสุขเหมือนเดิม แล้วจะขอทวงคืนทั้งหมดในวาระแดงเดือดครั้งหน้าอย่างแน่นอน
 
มีรูปพวกเราในวันเปิดร้านสุกี้ของโก๋เขียวมาลงให้ดูกันตรงส่วนของรูปถ่ายด้วย และกิจกรรมต่อไปที่จะมาถึงนั้น สมาชิกทุกท่านอย่าพลาดด้วยประการทั้งปวงนะครับ 31-1-2 ตุลา พฤศจิกา นี้ หัวหิน ถิ่นมีหอย คอยเรากันอยู่
 
ใครติดขัดธุระปะปังอะไร มีเวลาเคลียร์ตัวเองจากนี้อีกเกือบ1เดือน ไปกันนะ อยากให้ทุกคนได้ร่วมทริปนี้ด้วยกันครับ
 
ส่วนจะไปสนุกที่ไหนกันบ้างในสามวันนั้น ขอเชิญทุกท่านเสนอความคิดเห็นกันมาได้เลยนะครับ
 
แล้วจะสรุปให้ฟังว่าเราจะมีกิจกรรมเฮอย่างไรกันบ้างในวันนั้น
 
แจ๋ว…ววววว
 
ว๊าวๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
พริ้วไหว (รักษาการณ์เจ้ากรมถั่วงอก)
 

หัวข้อการพูดคุย อยากกินเป็ดก้อไม่ได้กินซะละ

 

ข้อความ

อยากกินเป็ดก้อไม่ได้กินซะละ

หลังจากศึกแดงเหือดเมื่อคืน
โก๋เอกเค้าจะเลี้ยงเป็ดพะโล้น้ำแดงถ้าผีชนะ แหมไอ้กะผมก้ออยากจะกินให้เต็มคราบเรย แต่ ไอ้เวสบราวคนเดียว นึกว่าตัวเองเป็นตอเรส กดไปเม็ดนึงซะงั้น ไอ้กะผมเลยอดกินเป็ดเลยอ่ะ
มึ๊งไอ้เวสบราวตัวดี เลยต้องมานั่งกินต้มเปรตผีอยู่หลังสภาคนเดียวเลยเนี่ย เดียวดายสิ้นดี
 
ลุงหมัก

แถลงการณ์#56

 
หลังการประชุมศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา มีมติว่า ครม.สัญจรของพวกเราถั่วงอกในครั้งที่จะมาถึงนี้ กำหนดการแน่ชัดแล้วว่าเป็นวันที่ 31-2 ตุลา-พฤศจิกา 2551 (ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์) สถานที่คือ บ้านสุขสามัคคี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันฐ์ ก็ถือโอกาสนี้ขอเชิญชวนสมาชิกทุกท่านมาร่วมจัดตั้งความสนุกในวันนั้นโดยพร้อมเพรียงกันอีกครั้งนะครับ ซึ่งก็จะมีกิจกรรมบันเทิงอาทิเช่น ฟุตบอลชายหาด เพ้นท์บอล โก-คาร์ด คาสิโน ดนตรีสด รวมไปถึงการไปกราบนมัสการหลองพ่อใหญ่ วัดห้วยมงคลด้วย ก็หวังว่าบรรดารัฐมนตรีถั่วงอกทุกท่านคงพร้อมเคลื่อนไหวชุมนุมกันตามหมายกำหนดการกัน
 
ส่วนวันศุกร์ที่19กันยายน ที่จะถึงนี้ สมาชิกถั่วงอกผู้ใดในเขตกรุงเทพหรือปริมณฑลที่มีเวลาว่างและมีความประสงค์ที่จะรับประทานดินเนอร์ร่วมกันฉันท์เพื่อน ขอเชิญชวนไปเป็นเกียรติในวันแกรนด์ โอเพ่นนิ่ง ร้านสุกี้ของโก๋เขียวกันได้นะครับที่ซอยสุขุมวิท101/1
 
เรียนเชิญครับ
 
อ้อ..ก่อนจาก วันเสาร์นี้ ตอนค่ำๆ เกมแดงเดือด ระหว่างเป็ดกับผีมาอีกแล้ว โดยนัดนี้ พี่เจิดกับน้องตอร์ ปอดแหกไม่กล้าลงอีกต่างหากหลังจากแพ้ยับมาตลอดในช่วงหลังๆ ดังนั้นวันศุกร์นู้นที่ร้านโก๋เขียว หากผลสกอร์เป็นไปในทางที่ถูกต้อง รบกวนพวกเราสั่งเป็ดพะโล้น้ำแดง มาฉลองชัยชนะให้กับผีแดงกันได้เลยนะครับ ซึ่งงานนี้โก๋เขียว สาวกผีน้องใหม่ (หลังจากพี่โด้เปลี่ยนใจอยู่ผีต่อ โก๋เขียวก็ขอรักพี่โด้และผีแดงจากวันนี้ตราบนิรันดร์) มั่นใจมาก ถึงขอประกาศทุ่มอัดฉีดเป็ดพะโล้แบบไม่อั้น หมดเป็นหมดมา ณ ที่นี้
 
เรียนเชิญฉลองความสำเร็จร่วมกันครับ
 
แจ๋ว..วววว
 
ว๊าวๆๆๆๆๆๆๆ
 
พริ้วไหว จะไปกินเป็ด